สวัสดี ฉันชื่อโทโมโกะ คาตาโอกะ เป็นผู้ดูแลศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ฉันเริ่มเข้ามาทำงานที่ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2553 และทำงานที่นี่มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ก่อนที่ฉันเข้ามาทำงานที่ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ฉันเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 ปีครึ่ง ที่โรงเรีบนเอกชนแห่งหนึ่งย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ฉันมีเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ ที่น่าพอใจ และสนุกที่จะได้ทำงานกับเด็กไทย อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกอยู่ในใจเสมอว่าฉันต้องเปลี่ยนแปลง และสร้างบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่า ช่วงเดียวกันนั้นเอง ฉันก็ได้รับข้อเสนอจากคุณทามากิ ให้เข้ามาดูแลศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง เราสร้างอนาคตที่สดใสด้วยการมอบการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับเด็กๆ ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา และมีฐานะยากจน เราสร้างวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากจุดเริ่มต้นร่วมกับเด็กๆ วิสัยทัศน์เหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกกระตือรือร้น เพราะฉันรู้สึกว่าวิถีทางนี้เป็นวิถีชีวิตที่มีความหมาย แม้ว่าพ่อแม่ และเพื่อน จะคัดค้านความเห็นฉัน แต่ฉันก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ณ ชายแดนไทย-เมียนมาร์ในที่สุด เด็กๆ ที่ฉันพบเจอ ล้วนแต่บริสุทธิ์ และมีจิตวิญญาณที่สวยงาม พวกเขาสอนฉันว่าเงินไม่สามารถซื้อความสุขในใจได้ ฉันได้เรียนรู้มากมายจากพ่อแม่ของเด็กๆ ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ของศูนย์การเรียนที่ใจดี สิ่งที่ฉันสามารถตอบแทนพวกเขาได้ คือ การให้ความรู้ ทักษะชีวิต และคุณค่าต่างๆ ที่จะจำเป็นต่อการใช้ชีวิตในสังคมนี้ โดยที่พวกเขา ยังสามารถรักษาพรสวรรค์ของตัวเองเอาไว้ได้ ฉันอยากให้พื้นที่นี้เป็นที่เรียนรู้ของผู้คนจากประเทศต่างๆ ที่จะเข้ามาสะท้อน และร่วมกันค้นหา สิ่งที่เราควรทำ เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม ฉันจะนำข้อดี และข้อเสีย ของการเกิดและเติบโตในประเทศญี่ปุ่น มาปรับใช้ในการพัฒนาศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ฉันอยากจะอุทิศตัวให้กับงานเหล่านี้ เพื่อให้งานนี้สำเร็จ เนื่องจากงานนี้เป็นความทะเยอทะยานของฉัน และเป็นเหตุผลที่นำฉันเข้ามาทำงานที่ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง แม้ว่าทุกวัน จะยังเป็นการเรียนรู้ มีทั้งข้อผิดพลาด และอุปสรรค แต่ฉันอยากจะพัฒนาศูนย์การเรียนแห่งนี้พร้อมกับเด็กๆ เจ้าหน้าที่ และเพื่อนของศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้งต่อไป โทโมโกะ คาตาโอกะ
สวัสดี ฉันชื่อโทโมโกะ คาตาโอกะ เป็นผู้ดูแลศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ฉันเริ่มเข้ามาทำงานที่ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2553 และทำงานที่นี่มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว
ก่อนที่ฉันเข้ามาทำงานที่ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ฉันเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 ปีครึ่ง ที่โรงเรีบนเอกชนแห่งหนึ่งย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ฉันมีเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ ที่น่าพอใจ และสนุกที่จะได้ทำงานกับเด็กไทย อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกอยู่ในใจเสมอว่าฉันต้องเปลี่ยนแปลง และสร้างบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่า ช่วงเดียวกันนั้นเอง ฉันก็ได้รับข้อเสนอจากคุณทามากิ ให้เข้ามาดูแลศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง
เราสร้างอนาคตที่สดใสด้วยการมอบการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับเด็กๆ ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา และมีฐานะยากจน เราสร้างวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากจุดเริ่มต้นร่วมกับเด็กๆ
วิสัยทัศน์เหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกกระตือรือร้น เพราะฉันรู้สึกว่าวิถีทางนี้เป็นวิถีชีวิตที่มีความหมาย แม้ว่าพ่อแม่ และเพื่อน จะคัดค้านความเห็นฉัน แต่ฉันก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ณ ชายแดนไทย-เมียนมาร์ในที่สุด
เด็กๆ ที่ฉันพบเจอ ล้วนแต่บริสุทธิ์ และมีจิตวิญญาณที่สวยงาม พวกเขาสอนฉันว่าเงินไม่สามารถซื้อความสุขในใจได้ ฉันได้เรียนรู้มากมายจากพ่อแม่ของเด็กๆ ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ของศูนย์การเรียนที่ใจดี
สิ่งที่ฉันสามารถตอบแทนพวกเขาได้ คือ การให้ความรู้ ทักษะชีวิต และคุณค่าต่างๆ ที่จะจำเป็นต่อการใช้ชีวิตในสังคมนี้ โดยที่พวกเขา ยังสามารถรักษาพรสวรรค์ของตัวเองเอาไว้ได้ ฉันอยากให้พื้นที่นี้เป็นที่เรียนรู้ของผู้คนจากประเทศต่างๆ ที่จะเข้ามาสะท้อน และร่วมกันค้นหา สิ่งที่เราควรทำ เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม
ฉันจะนำข้อดี และข้อเสีย ของการเกิดและเติบโตในประเทศญี่ปุ่น มาปรับใช้ในการพัฒนาศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง ฉันอยากจะอุทิศตัวให้กับงานเหล่านี้ เพื่อให้งานนี้สำเร็จ เนื่องจากงานนี้เป็นความทะเยอทะยานของฉัน และเป็นเหตุผลที่นำฉันเข้ามาทำงานที่ศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้ง
แม้ว่าทุกวัน จะยังเป็นการเรียนรู้ มีทั้งข้อผิดพลาด และอุปสรรค แต่ฉันอยากจะพัฒนาศูนย์การเรียนแห่งนี้พร้อมกับเด็กๆ เจ้าหน้าที่ และเพื่อนของศูนย์การเรียนบ้านสายรุ้งต่อไป
โทโมโกะ คาตาโอกะ